นายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ
กล่าวเมื่อวันพุธ ทันโลกข่าวต่างประเทศ ว่าผลของการสืบสวนพื้นฐานชี้ได้ว่าระเบิดที่ตกในดินแดนของประเทศโปแลนด์เมื่อวันอังคาร เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความสามารถยูเครน
“การวิเคราะห์พื้นฐานของพวกเราชี้ว่าสถานะการณ์นี้คงจะเป็นผลมาจากการที่อาวุธคุ้มภัยทางอากาศของยูเครนถูกยิงออกไปเพื่อต้านทานการจู่โจมด้วยขีปนาวุธนำวิถีของรัสเซีย” นายสโตลเตนเบิร์ก กล่าว
แต่ว่านายสโตลเตนเบิร์ก กล่าวเสริมว่า การไต่สวนดังกล่าวข้างต้นยังดำเนินไปตราบจนกระทั่งจะรู้เรื่องจริงที่เด่นชัด แต่ว่าก็ไม่มีอะไรระบุว่ามิสไซล์ที่ตกในประเทศโปแลนด์ดังที่กล่าวถึงมาแล้วเป็นการจู่โจมโดยจงใจ และไม่มีอะไรระบุว่ารัสเซียกำลังปฏิบัติงานด้านทหารต้านทานองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ
สอดคล้องกับคำบอกเล่าของนายอันดร์เจย์ ดูดา ผู้นำประเทศโปแลนด์ ว่ามีหลายข้อชี้ชัดว่ามิสไซล์ดังที่กล่าวถึงมาแล้วบางทีก็อาจจะเป็นจรวดรุ่น เอส-300 ที่ผลิตขึ้นในรัสเซีย ซึ่งถูกยิงออกมาโดยยูเครนเพื่อคุ้มภัยทางอากาศ และก็โชคร้ายที่ตกลงในดินแดนของประเทศโปแลนด์
ด้านนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ บอกว่า สหรัฐยังไม่มีอะไรโต้วาทีว่ามิสไซล์ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมีเหตุที่เกิดจากระบบการปกป้องคุ้มครองภัยทางอากาศของยูเครนดังที่ประเทศโปแลนด์ประเมินในพื้นฐาน
แตกต่างจากนายโอ้อวดโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่มั่นใจว่ามิสไซล์ที่ตกในประเทศโปแลนด์รวมทั้งทำให้มีคนเสียชีวิต 2 คนเมื่อวันอังคาร (15 เดือนพฤศจิกายน) นั้นไม่ใช่ความสามารถของยูเครนอย่างแน่แท้