“สมศักดิ์” สะกิด “อนุทิน” อาจทำงานหนักขึ้น ในการออก กม.ควบคุมกัญชา
รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม เปรียบเทียบพืชกระท่อม ชาวบ้านเคี้ยวมานานไม่มีผู้ใดเป็นอะไร ส่วนกัญชามีปัญหามากยิ่งกว่ามากมาย เตือน รัฐมนตรีว่าการสธ.ทำงานมากสังกัดการบัญญัติกฎหมายควบคุมกัญชา
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม แถลงการณ์ในงาน “สร้างเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงพืชกระท่อมเป็นเงินสด” ว่า ช่วงวันที่ 26 สิงหาคม2565 พระราชบัญญัติพืชกระท่อม บังคับใช้เป็นข้อบังคับ ซึ่งการดำเนินงานเป็นกระบวนการทำใบไม้ที่เป็นสารเสพติดมา 78 ปี ให้เป็นเงินสดอย่างยั่งยืน สำหรับปัญหาของพืชกระต๊อบข้างหลังปลดล็อก มีการปลูกอย่างเสรีทำให้ราคาตกลงมา จากแต่ก่อนโลละ 400-600 บาท ผู้ที่อยู่ภายในเขตพื้นที่นำร่องจัดว่าโชคดีที่มีรายได้ แม้กระนั้นตอนนี้ราคาปลีกเหลือ 200 บาท ค้าส่ง 120-150 บาท ซึ่งเดี๋ยวนี้ได้ติดต่อประสานงานกับมหาวิทยาลัยรวมทั้งหน่วยงานของรัฐสำหรับเพื่อการศึกษาค้นคว้า การปลูกแล้วก็สร้างสินค้า
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสาระสำคัญ พระราชบัญญัติพืชกระท่อมเป็นการเพาะหรือปลูกได้เสรี ครองและก็ขายใบกระท่อมได้โดยตรง และก็ออนไลน์ ไม่ต้องขอ แต่ว่าห้ามขายให้แก่ผู้สูงวัยต่ำลงยิ่งกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมลูกห้ามบริโภคใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อมที่ปรุงหรือผสมกับสิ่งเสพติด และก็การนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม จำเป็นต้องขอรับใบอนุมัติจากเลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งพวกเราไม่สนับสนุนการนำเข้าใบกระต๊อบเพื่อชาวไทยได้ประโยชน์ได้สุดกำลัง ไม่ให้ต่างประเทศ เข้ามาหาผลประโยชน์จากพวกเรา จะย้ำไปที่การส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ ซึ่งต่างแดน อาทิเช่น จีน ประเทศสหรัฐอเมริกา มีความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสารสกัด
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าต่อขาน ในส่วนของกัญชา มาทีหลังกระท่อม ยังไม่มีข้อบังคับรองรับ แม้กระนั้นมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขออกมา เพื่อคุ้มครองปกป้องความเสื่อมโทรมที่ตามมา โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาสินค้าจากกัญชา เป็นต้นว่า ชา ของกิน ของหวาน รวมทั้งการสูบ มีคนป่วยเข้าโรงหมอไปแล้วหลายราย ซึ่งแพทย์และก็พยาบาลต่างไม่เห็นด้วย คดีที่เกิดขึ้นมาจากการเสพกัญชามีจำนวนมาก แม้กระนั้นกระต๊อบไม่มี โดยสินค้ากระท่อม ถูกจัดอยู่ในหมวดของกินใหม่ ควรจะมีเอกสารขอมากไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่ากัญชากลับมิได้อยู่ในหมวดนี้ ซึ่งบัดนี้ที่ประชุมฯ ได้ถอนร่าง พระราชบัญญัติพืชกระท่อม ออกมาเพื่อพิเคราะห์ใหม่ ด้วยเหตุดังกล่าวธุรกิจรวมทั้งกัญชาอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีปัญหาบ้าง ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข คงจะจำเป็นต้องทำงานมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสำหรับในการบัญญัติกฎหมายควบคุมกัญชา
นายสมศักดิ์ ยังพูดว่า ตอนนี้ป.ป.ส.ได้ตั้งแผนกอนุกรรมการติดต่อประสานงาน เร่งรัด และก็ได้จัดสัมมนาร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไปแล้ว ช่วงวันที่ 31 เดือนสิงหาคม65 โดยป.ป.ส.กำลังเรียนเรื่องความปลอดภัยหรือความเป็นพิษ สําหรับใช้ประกอบกิจการขึ้นบัญชี สินค้า โดยร่วมมือกับ 15 หน่วยงานในการศึกษาวิจัยเวลานี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ให้ผู้ที่มีความชำนาญแล้วก็นักวิชาการ และก็จะมีผลไปยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ด้านในต้นเดือน เดือนตุลาคม ถ้าหาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เห็นด้วย ให้ผ่านการประมาณ เมืองไทยจะมีค่ามาตรฐานกึ่งกลางของพืชกระท่อมที่ใช้ในของกิน ซึ่งพวกเรากำลังต่อสู้ในเรื่องของมาตรฐานไมทราจีนีนในของกิน ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาระบุ 1 ขวด เพียงแค่ 0.2 มก.แต่ว่าในใบที่ราษฎรบดกันปกติมานานมีถึงใบละ 0.6-1 มก. ซึ่งบางบุคคลบดวันละเป็น 10 ใบ
