การเป็นพนักงานบริษัทนั้นก็มีจุดเด่นอยู่นะ ด้วยเหตุว่าทำให้พวกเราได้ทราบจะคนเยอะ รวมทั้งการมีมิตรภาพที่ดี

ก็ทำให้พวกเรารู้สึกอบอุ่นรวมทั้งสนิทสนมระหว่างเพื่อนผู้ร่วมการทำงาน การศึกษา ที่แม้พวกเราบางครั้งอาจจะมาจากต่างที่ต่างแดนกัน แต่ว่าการทำงานด้วยกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะก่อให้พวกเราเคยชินกับสถานที่รวมทั้งเคยชินกับผู้คนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ไม่ราวกับตอนเข้ามาเป็นเด็กใหม่ที่กำลังเปิ่นๆด๋าๆทำอะไรไม่ค่อยถูก พอเพียงอยู่ไปนานๆเข้า ได้ทราบจะคนหลากหลายขึ้น คุณจะรู้สึกสนุกสนานกับการมาดำเนินการได้อย่างง่ายดาย แถมเพื่อนฝูงบางบุคคลในสถานที่สำหรับทำงานบางทีอาจแปลงเป็นเพื่อนซี้เสียด้วย

แม้กระนั้นกับบางบุคคลบางทีอาจไม่ใช่แบบนั้น เปลี่ยนเป็นว่าไม่อาจจะปรับนิสัยให้กับสถานที่ทำงานได้ก็มี ก็เลยทำให้จำต้องแปลงงานหลายครั้ง และไม่ใช่เพียงแค่การปรับตัวในสถานที่สำหรับทำงานมิได้ การผลิตสมาคมที่ดีในหน่วยงานมิได้ก็บางทีอาจเป็นเยี่ยมในเหตุผลของการลาออกเช่นเดียวกัน ซึ่งก็แน่ๆอยู่แล้ว เวลามาปฏิบัติงานกับผู้อื่นมิได้ ประพฤติตนแตกต่าง กล่าวอะไรกับคนใดกันแน่ก็รู้สึกขัดๆไปซะหมด ก็อาจจะก่อให้รู้สึกอึดอัด แล้วไม่ได้อยากมาปฏิบัติงานสุดท้าย

การชักชวนเพื่อนผู้ร่วมการทำงานคุยเพื่อกำเนิดระยะเวลาที่มิตรภาพอันดี จึงควรเลือกเรื่องการสนทนาที่เปิดกว้าง ที่จะทำให้สามารถถือโยงเรื่องราวไปสู่บทสำหรับพูดถัดไปได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งการแสดงออกควรจะมีความยุติธรรมชาติ นุ่มนวล ไม่กระด้าง รวมทั้งมีน้ำเสียงที่ไพเราะเป็นหัวใจหลักของการพูดคุยกันให้ออกมาสมูท และก็มีความคุ้นเคย Tonkit360 มีทริกดีๆสำหรับในการคุยกับสหายร่วมงานเช่นไรให้ใกล้ชิดกับสหายร่วมงานได้เร็วมาบอกกัน

คำกล่าวทักทายเช้า แจ่มใสเสมอ
ถ้าหากคุณจำเป็นต้องพบกับสหายร่วมงานที่ห่อไหล่เดินเข้ามาในสำนักงาน ตามองต่ำไม่มองหน้าคนไหนแล้วมัวแต่ก้มหน้าก้มตาปฏิบัติงานคุณจะรู้สึกเช่นไรกับเขา ในเรื่องที่ค่อยที่สุดคุณอาจจะเพียงแค่ไม่สนใจเขา หรืออย่างร้ายที่สุดคุณก็อาจเลี่ยงเขาไปเลย การยิ้มแย้มและก็ทักทุกๆคนในตอนเช้าของวันทำงานเป็นมารยาทนิดๆหน่อยๆที่ทุกคนจำเป็นจะต้องทำในวันแล้ววันเล่า กระตุ้นให้เกิดความคุ้นเคย สิ่งนี้ราวกับเป็นสิ่งที่ช่วยละลายความไม่แยแสในสถานที่ทำงานได้อย่างเร็ว
ทำความเข้าใจศิลป์การพูดนิดๆหน่อยๆ

การมีศิลป์สำหรับเพื่อการกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณกับคนอื่นๆได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น เชื้อเชิญเพื่อนผู้ร่วมการทำงานของคุณคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เขาพอใจ บางทีอาจจะเป็นเพลงที่ถูกใจ หนัง หนังสือ หรืองานว่าง การแสดงให้เขามีความเห็นว่าคุณพึงพอใจพวกเขาจริงๆมันจะก่อให้เขารู้สึกเพลิดเพลินใจในขณะที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณ แล้วก็คุยถึงเรื่องของคุณนอกสถานที่ทำงานบ้าง (หากมีจังหวะในช่วงเวลาที่สมควร) สิ่งนี้จะมีผลให้ผู้ที่ดำเนินการกับคุณรำลึกถึงคุณเป็นคนแรกเมื่อมาถึงสถานที่ทำงาน

ชักชวนคุยเรื่องประสบการณ์ในด้านการทำงานก่อนหน้านี้
เมื่อรู้จักกันแรกๆแน่ๆว่าพวกเราอาจจะต้องการรู้ว่าเพื่อนผู้ร่วมการทำงานเคยผ่านประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการทำงานอะไรมาบ้าง เก็บคำถามนั้นไว้แล้วเริ่มตั้งประเด็นการเสวนาในช่วงพักตอนเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงๆงดจากงาน ที่จะเป็นจังหวะสำคัญสำหรับการทำความรู้จักกับสหายร่วมงานให้ดียิ่งกว่าที่เป็นอยู่ โดยคุณอาจเริ่มด้วยปริศนา ว่าปฏิบัติงานตรงสายไหม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเคยปฏิบัติงานตรงไหนมาก่อน แล้วมันดีไหมดียังไง ต่อด้วยปัญหาว่าจะอยู่ในที่ในเวลานี้นานขนาดไหน หรือทำไปเรื่อยก่อนค่อยคิด ซึ่งการถามในเรื่องทั่วๆไปนี้ เมื่อเพื่อนคุยพูดเชือนแชร็จ เขาบางครั้งอาจจะถามคุณกลับไป ก็ให้เล่าแต่ว่าเฉพาะเรื่องดีๆเข้าไว้ เพื่อไม่เป็นการใส่ร้ายบริษัทเก่า ซึ่งมันจะก่อให้คุณดูแย่เอาเสียเลยได้

คุยเรื่องท่องเที่ยว
คุณอาจจะถามหาวันหยุดลาพักร้อนของเพื่อนผู้ร่วมการทำงานก็ได้ว่ามีแพลุกลี้ลุกลนจะท่องเที่ยวไหนไหม หรือปีที่ผ่านมาท่องเที่ยวตรงไหนมาบ้าง มีสถานที่เสนอแนะไหม ซึ่งมันก็เป็นหัวข้อในการสนทนาที่คุณสามารถสืบต่อไปได้ว่า คุณพอใจท่องเที่ยวที่เดียวกับเขา จำต้องเตรียมเช่นไร เอาเงินไปเยอะแค่ไหนถึงจะเพียงพอ เมนูอาหารอะไรบ้างที่น่าดึงดูด ของที่ระลึกที่ควรจะซื้อติดมือ หรือของขึ้นชื่อมีอะไรบ้าง เมื่อเพื่อนคุยบอกจบคุณอาจจะเปลี่ยนประสบการณ์การไปท่องเที่ยวกับเพื่อนผู้ร่วมการทำงานให้เขาได้ทราบบ้าง บอกถึงความชื่นชอบ ความตรึงใจในช่วงดังที่กล่าวถึงมาแล้ว เพื่อการคุยกำเนิดอรรถรส มีชีวิตชีวา

คุยประเด็นการปฏิบัติงาน
เมื่อคุณมีอะไรไม่รู้เรื่องในเนื้องาน หรือมีสิ่งที่จำเป็นต้องตื่นตระหนกอย่างเช่นเรื่องผ่านโปร คุณอาจจะเลือกผู้ที่มองวางใจได้สำหรับในการเสวนาขอคำแนะนำเรื่องที่คุณกลุ้มใจ ซึ่งคุณอาจจะได้ข้อมูลใหม่ๆเอามาประยุกต์แนวทางคิดให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งคุณอาจจะได้แรงใจจากการเสวนาคราวนี้ และก็ได้รับทราบถึงตัวชี้วัดการวัดผลงานว่าวัดจากอะไรบ้าง ภายหลังจากถามผู้มีประสบการณ์ไปแล้ว คุณก็ไม่สมควรคิดมากจนกระทั่งเหลือเกิน ให้เดินหน้าดำเนินงาน รับผิดชอบหน้าที่ให้ยอดเยี่ยมก็พอเพียง

หลบหลีกการติฉินนินทา
ข้อนี้กล่าวได้ว่าเป็นกฎเหล็กของการพูดคุยกับสหายร่วมงานอย่างยิ่งจริงๆ เป็นการกระทำที่ไม่มีผู้ใดถูกใจอย่างแน่แท้ แม้คุณไม่อยากให้คนไหนกันแน่เอ๋ยถึงคุณลับหลังเช่นไร คุณก็ไม่สมควรที่จะกระทำอย่างนั้นกับคนใดกันแน่เช่นเดียวกัน เมื่อมีเพื่อนผู้ร่วมการทำงานเขามาใกล้ๆคุณแล้วนินทาเกี่ยวกับเรื่องรักๆในสำนักงาน หรือใครซักคนกำลังจะโดนไล่ออก ให้ท่านโต้ตอบเขาไปด้วยคำว่า “จริงหรอ?” แล้วมานะเปลี่ยนแปลงเรื่องไปหรือหวนกลับเข้าไปเรื่องงาน หรือหากคุณไม่ตอบโต้อะไรเลยผู้ที่ถูกใจนินทาคนนั้นก็จะไปหนีคุณไปเอง แล้วก็การที่คุณไม่นินทาคนไหนกันก็จะมีผลให้คุณสามารถรักษาความไว้ใจและก็ความยำเกรงจากสหายร่วมงานของคุณเอาไว้ได้

ชื่นชอบสหายร่วมงาน
ชื่นชอบเพื่อนผู้ร่วมการทำงานของคุณในช่วงเวลาที่เขาบรรลุความสำเร็จหรือดูแลรับผิดชอบหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม อาทิเช่น วันนี้งานพรีเซนต์ของคุณดีเลิศ หรืองานของคุณออกมาดีเยี่ยมเลยค่ะ เพื่อพลังใจเขา เนื่องจากมนุษย์เราชอบติเตียนในสิ่งที่คนอื่นๆทำผิดพลาดมากยิ่งกว่ายกย่องในสิ่งที่เขาปฏิบัติดี ซึ่งการสรรเสริญของคุณจึงควรไม่มากจนเกินไปจนถึงดูเหมือนกับว่าเป็นการประจบประแจง ซึ่งจะก่อให้ความคาดหมายของคุณมันมองเลียนแบบไปโดยทันทีเมื่อคุณผ่านเส้นของความพอประมาณ

ให้เครดิตเสมอ
การให้เครดิตเป็นเรื่องจำเป็น ของการทำงานด้วยกันกับคนอื่น แม้เป็นงานที่จำต้องดำเนินงานเป็นกลุ่ม หรือได้ไอเดียมาจากผู้อื่น อย่าลืมให้เครดิตกับเพื่อนผู้ร่วมการทำงานที่เขาควรจะได้รับ ให้จำเอาไว้ว่า “พวกเราจะต้องชนะไปร่วมกัน” รวมทั้งทำให้ทุกคนทราบดีว่ามีคนใดกันแน่สถานที่ทำงานก้าวหน้าหรือดีมากยิ่งกว่าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในงานนั้นๆบ้าง ให้เครดิตอย่างเหมาะควรเป็นสิ่งสำคัญรวมทั้งควรจะทำ

เคารพนับถือความเห็นของคนอื่นๆ
เมื่อคุณเสนอไอเดียของคุณออกไปแล้ว จำต้องพร้อมเปิดใจยอมรับฟังข้อคิดเห็นของผู้อื่นโดยไม่ใช้อคติด้วยเช่นเดียวกัน หากว่าทุกข้อคิดเห็นที่ออกมาบางทีก็อาจจะมิได้ดีทั้งสิ้น แต่ว่าบางความคิดเห็นก็บางครั้งอาจจะมาเสริมเติมให้อีกข้อคิดเห็นมีจุดบกพร่องลดน้อยลง หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความคิดเห็นใหม่ๆที่ดียิ่งกว่า สมควรกว่าตามมา ภายหลังจากคุณเสนอความเห็นก็เป็นไปได้ โดยเหตุนี้ คุณก็เลยไม่สมควรปิดหูรวมทั้งปิดจิตใจ จนถึงพลาดที่จะเปิดโลกของคุณให้มองเห็นมุมมองใหม่ๆมากขึ้น

เว้นเสียแต่คำกล่าวที่ควรจะกล่าวแล้ว คุณอาจจะต้องเรียนคำบอกเล่าบางคำที่เป็นสาเหตุของการทำลายมิตรภาพของคุณด้วย เนื่องจากว่าการทำงานเปรียบเหมือนการอยู่ร่วมกันในสังคมใหญ่ ซึ่งคำบอกเล่าบางคำที่กล่าวออกไปนั้น ควรคิดให้ดีก่อนบอก จะได้ไม่ต้องเศร้าใจวันหลัง ยกตัวอย่างคำบอกเล่ากล้วยๆที่ไม่สมควรกล่าวกับเพื่อนผู้ร่วมการทำงานดังต่อไปนี้

นายจ้างบริษัทก่อนพวกเราแย่มากเลย
เพื่อนผู้ร่วมการทำงานคนนี้นิสัยดีเยี่ยม
ประเดี๋ยวก่อนนะ ขอปฏิบัติงานนี้ให้เสร็จก่อน
วันศุกร์นี้ฉันจำต้องกลับเร็วหน่อยนะ
ฉันควรจำเป็นต้องเข้าพบผู้ใด รวมทั้งฉันไม่สมควรยุ่งกับใครกันแน่บ้าง
ฉันมิได้เรียนมาเพื่อทำอย่างนี้นะ
ตรงนี้ได้โบนัสกันเยอะแค่ไหนหรอ?
อ่อนล้าจังเลย
การเป็นสุดที่รักของสหายร่วมงาน เริ่มจากการทำตนคุณให้ดี ไม่เย็นชากับสหายร่วมงาน แต่ว่าก็มิได้ดีเกินความจำเป็นจนกระทั่งคนอื่นๆไม่เกรงใจหรือมองฉ้อฉล แล้วลักษณะการทำงานของคุณจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วก็ความสบาย ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ความบริสุทธิ์ใจเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับเพื่อการผูกมิตรอันดีของผู้ที่มาร่วมงาน